ข้อควรปฏิบัติและวิธีการหยอดยาอย่างถูกต้อง!!
โดยทั่วไปเมื่อมีอาการผิดปกติทางตา แนะนำให้ไปพบจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง แต่ในกรณีไม่สะดวกที่จะไปตรวจได้ และจำเป็นต้องใช้ยาหยอดตาก็ควรหลีกเลี่ยงยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ และควรปฏิบัติในการยอดตาให้ถูกต้อง
ข้อควรปฏิบัติและวิธีการหยอดยาอย่างถูกต้องกัน
1. เก็บรักษายาหยอดตา ยาแต่ละชนิดมีวิธีเก็บรักษาที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องได้ บางชนิดต้องเก็บในตู้เย็น ที่สำคัญอย่าลืมยาทิ้งไว้ในรถที่ตากแดด เพราะความร้อนจะทำให้ยาเสื่อมสภาพ
2. ก่อนใช้อ่านฉลากวันหมดอายุ พร้อมเขียนวันเปิดใช้ไว้ที่ฉลากข้างขวด เมื่อเปิดใช้ครบหนึ่งเดือน หรือ ตัวยามีการเปลี่ยนสีให้ทิ้งทันที เนื่องจากอาจเริ่มมีการปนเปื้อนของเชื้อ
3. ล้างมือให้สะอาด ถ้ารอบ ๆ ดวงตามีขี้ตาหรือเครื่องสำอางให้ใช้สำลีสะอาดชุบน้ำอุ่นเช็ดอย่างเบามือ ยาบางชนิดจำเป็นต้องเขย่าขวดก่อนหยอดเนื่องจากมีลักษณะเป็นยาน้ำแขวนตะกอน
4. หาที่นั่งที่มีพนักพิงหรือที่นอนที่สามารถแหงนหน้าขึ้นได้โดยไม่เสียการทรงตัว ใช้นิ้วดึงเปลือกตาล่างลงพร้อมกับหยอดยาลงในกระพุ้งตาล่าง 1-2 หยด ถ้าเป็นขี้ผึ้งป้ายตา บีบยายาวประมาณ 1 เซนติเมตร ให้ป้ายจากหัวตาไปหางตา โดยระวังไม่ให้ปลายหลอดยาสัมผัสกับตาหรือมือ เนื่องจากจะทำให้เชื้อสามารถเล็ดลอดเข้าไปปนเปื้อนยาหยอดตาได้
5. หลับตาไว้ 3 นาที ยาจะค่อย ๆ ถูกดูดซึมเข้าไป หากมียาหลายชนิดที่ต้องหยอดในเวลาเดียวกัน ควรรอให้ระยะเวลาหยอดตาห่างกันอย่างน้อย 10 นาที เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของยาทั้งสองชนิด เนื่องจากการหยอดยา 2 ชนิดในเวลาใกล้กันเกินไป ยาหยดที่ 2 จะไปทำให้ความเข้มข้นของยาหยดแรกลดลง จนอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่
6. ยาบางชนิดหยอดแล้วอาจมีอาการขมคอ สามารถแก้ไขได้โดยการเอานิ้วกดบริเวณหัวตา การเอานิ้วกดตรงหัวตา นอกจากจะช่วยลดปริมาณยาไหลลงคอได้แล้วยังช่วยเพิ่มการออกฤทธิ์ที่ตาได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังลดอาการข้างเคียงต่อระบบอื่น ๆ ของร่างกายได้อีกด้วย
7. ยาหยอดส่วนที่เกินล้นออกมานอกตา ให้ใช้สำลีค่อย ๆ ซับออก อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะจะทำให้ผิวหนังรอบดวงตาเกิดการอักเสบได้.
ขอบคุณข้อมูลจาก : thaihealth.or.th